• 1363 เข้าชม
  • 11 เมษายน 2561

ว่ายน้ำ ตอนที่เบบี๋ยังอยู่ในท้องคุณแม่สภาวะความเป็นอยู่คือ ลอยตัวอยู่ในน้ำคร่ำนานถึง 9 เดือน ทักษะนั้นก็ยังคงติดตัวลูกน้อยของคุณออกมาทำให้มีความรู้สึกคุ้นเคยกับน้ำ เรียนรู้ที่จะลอยตัวในน้ำได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยออกมาสนับสนุนว่าเด็กทารกเริ่มเรียนว่ายน้ำได้ตั้งแต่อายุ 4 เดือนหรือเมื่อคอเริ่มแข็งแล้ว และเด็กเล็กที่เรียนว่ายน้ำตั้งแต่เด็กจะมีพัฒนาการที่ยั่งยืนกว่าเด็กในวัยเดียวกันที่ไม่ได้เรียนว่ายน้ำ อีกด้วย สภาวะกึ่งไร้น้ำหนักขณะอยู่ในน้ำจะทำให้เด็กรู้สึกถึงความเป็นอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกาย เกิดความผ่อนคลายและกระตุ้นให้อยากเรียนรู้ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านต่างๆได้ดังต่อไปนี้

พัฒนาการด้านร่างกายและกล้ามเนื้อ
การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำช่วยให้ร่างกายทุกส่วนของเด็กได้ใช้งานทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างแขนขา และกล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างนิ้วมือนิ้วเท้าให้แข็งแรงขึ้นเด็กเล็กที่เรียนว่ายน้ำจึงมีพัฒนาการด้านร่างกายอย่างคลาน ตั้งไข่ ยืน เดินได้เร็วและมั่นคง ปอดแข็งแรงจากการฝึกควบคุมการหายใจในการว่ายน้ำลดความเสี่ยงการเป็นโรคหอดหืด

นอกจากนี้การออกกำลังกายในน้ำใช้พลังงานกว่าการออกกำลังกายบนบกถึง 4 เท่า เมื่อเด็กได้ออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำจะทำให้หิว จึงเจริญอาหาร กินได้เยอะขึ้น หลับง่าย นอนหลับสนิทได้นาน กระตุ้นให้ฮอร์โมนด้านการเจริญเติบโต หรือ Growth Hormone ทำงานได้เต็มที่ร่างกายจึงเจริญเติบโตสมวัย และสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

พัฒนาการด้านสมองและสติปัญญา
การว่ายน้ำช่วยพัฒนาสมองด้านที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และการจดจำ  สามารถรับฟัง จดจำและทำตามคำสั่งได้ ฝึกให้เกิดการเรียนรู้และควบคุมความสัมพันธ์กันระหว่างสมองกับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกายให้ทำงานได้สอดคล้องประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเด็กอยู่ในน้ำร่างกายสัมผัสน้ำและเคลื่อนไหวบ่อยๆทำให้สมองถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้สมองมีการพัฒนาได้มากกว่าปรกติ 2 เดือนและสมองมีการพัฒนาขึ้นทุกๆ ครึ่งปีในปีต่อๆ ไป

พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
ประสาทสัมผัสแรกที่เด็กรู้จักคือรับรู้จากการสัมผัสที่ผิวหนังการอยู่ในน้ำจะเป็นการกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ หากคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังทัศนคติที่ดีที่เด็กมีต่อน้ำจะทำให้เด็กรู้สึกสนุกเมื่อได้ว่ายน้ำ  รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย อารมณ์ดี สดใสร่าเริง

อุณหภูมิที่เหมาะสมของน้ำในสระสามารถช่วยลดความใจร้อน ขี้หงุดหงิดให้ลูกได้ด้วย นอกจากนี้การอุ้มพยุงให้ลอยตัวในน้ำของคุณพ่อคุณแม่ยังเป็นการช่วยให้ลูกรู้จักความไว้วางใจในตัวผู้อื่น มั่นใจในตัวเองและการพาลูกออกไปพบปะคนแปลกหน้าบ่อยๆอย่างพ่อแม่เด็กคนอื่นหรือแม้แต่ครูสอนว่ายน้ำจะช่วยทำให้ลูกไม่กลัวคนแปลกหน้า กล้าแสดง นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการสร้างจินตนาการระหว่างการเล่นน้ำให้ลูกได้ด้วย และช่วยให้เด็กมีสมาธิพร้อมเรียนรู้ทักษะทางด้านอื่นๆได้รวดเร็ว

พัฒนาทักษะด้านการเอาชีวิตรอดจากอุบัติเหตุทางน้ำได้

การมีทักษะการว่ายน้ำที่ถูกต้องจะติดตัวลูกน้อยของคุณไปจนโตทำให้สามารถเอาชีวิตรอดเมื่อประสบอุบัติเหตุทางน้ำได้และสามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้อย่างถูกวิธี

พัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัว
ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมในกิจกรรมร่วมกันกับลูก สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัว ให้ลูกได้รู้จักความไว้วางใจ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นปลอดภัยที่พ่อแม่มีให้เป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความผูกพันในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ข้อควรระวังในการพาลูกเล็กไปว่ายน้ำ
หากคุณพ่อคุณแม่สนใจอยากพาลูกไปว่ายน้ำควรพาเรียนไปที่สระว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะมีครูผู้ฝึกสอนที่มีความชำนาญและมีความรู้อย่างถูกต้องกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าพาลูกไปว่ายน้ำด้วยตัวเองเด็ดขาดเพราะอาจได้รับอันตราย


เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปีมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่ายกว่าเด็กโตเพราะภูมิต้านทานต่อโรคต่ำคุณพ่อคุณแม่จึงควรพาไปลงสระสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ไม่ควรพาลูกไปว่ายน้ำในสระสาธารณะทั่วไปเพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ควรเลือกใช้บริการสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ เพราะมีค่าความเป็นกรดด่างใกล้เคียงกับน้ำในตาของคนทำให้ลูกน้อยไม่แสบตา ไม่เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ไม่ทำให้ผิวแห้งเหมือนสระว่ายน้ำระบบคลอรีน
ไม่ควรทาครีมกันแดดให้เด็กทารกเพราะผิวหนังยังบอบบางอาจเกิดการระคายเคืองได้ ทางที่ดีควรเลือกสระว่ายน้ำสำหรับเด็กในร่มเพื่อป้องผิวลูกการจากการถูกทำร้ายของแสงแดด
ประโยชน์มากมายขนาดนี้คุณแม่ที่อยากพาลูกเล็กไปเรียนว่ายน้ำก็ไม่ต้องลังเลแล้วใช่ไหมละค่ะ ว่าแล้วก็เริ่มต้นหาข้อมูลสระว่ายน้ำให้ลูก เลือกวันว่างของสามีแล้วหอบลูกไปว่ายน้ำกันได้เลยค่ะ

แหล่ข้อมูล http://manager.co.th